เว็บไชต์เสร็จ ติดหน้าแรก Google พร้อมเพิ่มยอดขายทันที

โดดเด่นท่ามกลางเว็บไซต์ที่มหาศาล และใช้งานง่ายที่สุด

เว็บไซต์ที่ยอดเยี่ยมช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของคุณ จาก
การออกแบบ Wireframe ที่ฉลาดทำให้ลูกค้าเข้าใช้งานได้ง่าย และสวยงาม

  • ­ดีไซน์ที่ใช้งานได้ยอดเยี่ยมสำหรับเดสก์ท็อป แท็บ และมือถือของคุณ
  • ­การออกแบบที่สวยงามและทันสมัยที่สร้างความแตกต่างอันโดดเด่น
  • ­เพิ่มยอดขายของคุณด้วยประสบการณ์ผู้ใช้ที่สร้างขึ้นอย่างมีกลยุทธ์
  • ­ติดหน้าแรก Google ทันทีหลังเว็บไซต์เสร็จ

กลยุทธ์การออกแบบเว็บไซต์ที่ครอบคลุมของเราทำให้มั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับธุรกิจของคุณ

    Get a Free Quote

    Our Website Design Process

    Consultation

    ให้คำปรึกษาการออกแบบเว็บไซต์ โดยผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำและแนวทางในการออกแบบเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ

    1. การวิเคราะห์ความต้องการ:

       ทำความเข้าใจเป้าหมายทางธุรกิจของลูกค้า

       ระบุกลุ่มเป้าหมายและพฤติกรรมผู้ใช้

    2. การประเมินเว็บไซต์ปัจจุบัน (ถ้ามี):

       วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของเว็บไซต์ที่มีอยู่

       เสนอแนะการปรับปรุง

    3. การให้คำแนะนำด้านโครงสร้างเว็บไซต์:

       เสนอแนะการจัดวางเมนูและการนำทาง

       ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมข้อมูล

    4. การให้คำปรึกษาด้าน UI/UX:

       แนะนำการออกแบบที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง

       เสนอแนวทางการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี

    5. การให้คำแนะนำด้านการออกแบบภาพ:

       แนะนำการใช้สี โทนสี และตัวอักษร

       ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้รูปภาพและกราฟิก

    6. การให้คำปรึกษาด้าน Responsive Design:

       แนะนำวิธีการออกแบบให้รองรับอุปกรณ์ต่างๆ

       เสนอแนวทางการจัดการเนื้อหาบนหน้าจอขนาดต่างๆ

    7. การให้คำแนะนำด้าน SEO:

       แนะนำการออกแบบที่เป็นมิตรกับ SEO

       ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโครงสร้าง URL และ meta tags

    8. การเสนอแนะเทคโนโลยีและเครื่องมือ:

       แนะนำ CMS หรือแพลตฟอร์มที่เหมาะสม

       เสนอเครื่องมือการออกแบบและพัฒนา

    9. การให้คำปรึกษาด้านการใช้งานและการเข้าถึง:

       แนะนำวิธีการทำให้เว็บไซต์ใช้งานง่าย

       ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำให้เว็บไซต์เข้าถึงได้สำหรับทุกคน

    10. การวางแผนการพัฒนาและการดูแลรักษา:

        เสนอแนะขั้นตอนการพัฒนาและการทดสอบ

        ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบำรุงรักษาเว็บไซต์ในระยะยาว

    Design

    การออกแบบเว็บไซต์ เป็นกระบวนการสร้างและจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ของเว็บไซต์เพื่อให้มีประสิทธิภาพทั้งในแง่การใช้งานและความสวยงาม 

    1. User Interface (UI):

       การออกแบบหน้าตาและส่วนประกอบที่ผู้ใช้มองเห็น

       การจัดวางองค์ประกอบ เช่น เมนู ปุ่ม รูปภาพ

    2. User Experience (UX):

       การออกแบบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับผู้ใช้

       การสร้างการนำทางที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ

    3. Responsive Design:

       การออกแบบให้รองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์ต่างๆ

       การปรับขนาดและจัดวางให้เหมาะสมกับหน้าจอแต่ละขนาด

    4. Visual Design:

       การเลือกใช้สี ตัวอักษร และกราฟิก

       การสร้างความสอดคล้องกับอัตลักษณ์แบรนด์

    5. Content Layout:

       การจัดวางเนื้อหาให้อ่านง่ายและน่าสนใจ

       การใช้ช่องว่างและการจัดกลุ่มข้อมูลอย่างเหมาะสม

    6. Performance Optimization:

       การออกแบบให้เว็บไซต์โหลดเร็วและทำงานอย่างราบรื่น

       การจัดการไฟล์และรูปภาพให้มีขนาดเหมาะสม

    7. Accessibility:

       การออกแบบให้เข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม รวมถึงผู้พิการ

       การใช้โครงสร้าง HTML ที่ถูกต้องและ ARIA attributes

    8. SEO-friendly Design:

       การออกแบบโครงสร้างที่เอื้อต่อการทำ SEO

       การใช้ headers และ meta tags อย่างเหมาะสม

    9. Interactive Elements:

       การเพิ่มองค์ประกอบโต้ตอบ เช่น animations และ transitions

       การใช้ JavaScript เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการทำงาน

    10. Brand Consistency:

        การสร้างความสอดคล้องกับอัตลักษณ์แบรนด์

        การใช้โลโก้ สี และโทนเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์

    Development

    การพัฒนาเว็บไซต์ เป็นกระบวนการสร้างและพัฒนาเว็บไซต์ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    1. การวางแผนและกำหนดขอบเขต:

       ระบุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของเว็บไซต์

       กำหนดกลุ่มเป้าหมายและความต้องการของผู้ใช้

       วางแผนโครงสร้างและฟังก์ชันการทำงาน

    2. การออกแบบ UI/UX:

       สร้าง wireframes และ mockups

       ออกแบบหน้าตาและประสบการณ์ผู้ใช้

    3. การพัฒนา Front-end:

       ใช้ HTML, CSS, และ JavaScript

       สร้างส่วนที่ผู้ใช้มองเห็นและโต้ตอบได้

       ทำให้เว็บไซต์รองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์ต่างๆ (Responsive)

    4. การพัฒนา Back-end:

       เลือกภาษาโปรแกรมมิ่ง เช่น PHP, Python, Ruby, Java

       พัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูล

       สร้างและจัดการ APIs

    5. การใช้ Content Management System (CMS):

       เลือกและติดตั้ง CMS เช่น WordPress, Drupal, Joomla

       ปรับแต่งและพัฒนา themes และ plugins

    6. การทดสอบ:

       ทดสอบการทำงานของฟังก์ชันต่างๆ

       ทดสอบความเข้ากันได้กับเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ต่างๆ

       ทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย

    7. การ Optimize ประสิทธิภาพ:

       ปรับแต่งความเร็วในการโหลด

       – Optimize รูปภาพและไฟล์ต่างๆ

       ใช้เทคนิค caching

    8. การทำ SEO:

       ปรับแต่ง on-page SEO

       สร้าง sitemap และ robots.txt

       ทำให้เว็บไซต์เป็นมิตรกับ search engines

    9. การติดตั้งและ Deploy:

       เลือกและตั้งค่า web hosting

       อัพโหลดไฟล์และฐานข้อมูล

       ตั้งค่า domain name

    10. การบำรุงรักษาและอัพเดต:

        ติดตามและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

        อัพเดตระบบและ plugins อย่างสม่ำเสมอ

        เพิ่มเติมหรือปรับปรุงฟีเจอร์ตามความต้องการ

    Final

    สร้าง Website เสร็จติดหน้าแรก Google พร้อมสร้างยอดขายได้ทันที